|
ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม (capitalism)
จะใช้กลไกตลาด (ราคา) หรือที่มักเรียกว่า มือที่มองไม่เห็น เป็นเครื่องมือหรือกลไกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กล่าวคือ ราคาจะเป็นตัวช่วยตอบ
ปัญหาต่างๆ ตั้งแต่เริ่มผลิตอะไร อย่างไร และเพื่อใคร ปกติสินค้าและบริการใดที่เป็นที่ต้องการผู้บริโภคก็จะเสนอราคาซื้อสูง นั่นคือ ราคาจะเป็นตัวสะท้อน
ที่ทำให้ผู้ผลิตทราบความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าและบริการตรงกับความต้องการของผู้บริโภคปัญหาที่ว่าผลิตอย่างไร ซึ่ง
เป็นปัญหาในเรื่องของเทคนิคการผลิตว่าจะผลิตโดยเน้นใช้ปัจจัยแรงงานหรือปัจจัยทุน ก็ขึ้นอยู่กับราคาโดยเปรียบเทียบของปัจจัยแต่ละประเภท โดยมี
หลักว่าผู้ผลิตจะเลือกผลิตหรือใช้ปัจจัยการผลิตในประเภทที่ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำสุด ซึ่งราคาก็เป็นเครื่องชี้ีเช่นเดียวกัน สำหรับ ปัญหา ผลิต
เพื่อใคร กล่าวคือ ใครควรจะได้รับการจัดสรรสินค้าและบริการไปอุปโภคบริโภคมากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับใครมีอำนาจซื้อและ เสนอราคาให้ได้มากกว่า
ผู้ผลิตหรือผู้ขายก็จะเสนอขายสินค้าและบริการนั้นไปให้ บุคคลนั้นก็จะได้รับสินค้าและบริการไปอุปโภคบริโภคตอบสนองความต้องการของตน
โดยสรุปภายใต้ระบบเศรษฐกิจนี้ราคาจะเป็นเครื่องมือหรือกลไกที่สำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
-
เอกชนมีแรงจูงใจในการลงทุน
-
ทรัพยากรถูกนำมาใช้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
-
สินค้ามีคุณภาพและราคาถูก
-
เจ้าของปัจจัยการผลิตมีเสรีในการใช้ปัจจัยที่ตนครอบครอง
ข้อเสียของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
-
เกิดการกระจายรายได้เฉพาะกลุ่มบุคคล
-
ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถสร้างระเบิดนิวเคลียร์
|
|
|